ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Translate

15 ประโยคอาจทำให้คุณดูแย่ ไม่ควรไปพูดกับหัวหน้า

 


มีหลากหลายสิ่งที่เราควรเรียนรู้ ในการทำงาน ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงาน หรือกับหัวหน้างานหรือแม้กระทั่งบอสใหญ่ มารยาทและวินัยในการทำงานสำคัญมากเพราะบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพ

และนั่นคืออีกจุดที่จะนำไปพิจารณา ในการขึ้นเงินเดือน หลายสิ่งที่เราไม่ควรพูด กับเจ้านาย/หัวหน้างาน อย่าได้เผลอเชียวล่ะบางทีคำพูดที่เราบอกตัวเองเสมอว่า “ก็เป็นคนพูดตรงๆ มีอะไรก็พูด” ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป

1. งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ

แม้ไม่ใช่งาน ในความรับผิดชอบ ของเราก็ตาม หากหัวหน้าสั่งงานเราก็ควรทำ เพราะสิ่งที่หัวหน้ามองอยู่นั้นอาจจะไม่ใช่ เพียงแค่ให้เราทำงานนั้นๆ ให้เสร็จ แต่นั่นบอกไปได้ถึงการที่เราก้าวออกจากบทบาท งานของตัวเองได้และสามารถทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงได้รวมถึงการทำให้โปรเจ็ค นั้นลุล่วงไปด้วยดี

ซึ่งมีเราเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ หากเราปฎิเสธเสียแล้วนั่นหมายถึงเราไม่มีความยืดหยุ่น ในการทำงานเอาเสียเลย แต่หากมีปัญหาไม่สามารถทำได้เนื่องจากงานล้นมืออยู่แล้ว ควรต้องคุยกับหัวหน้าด้วยเหตุผลดีๆไม่ใช่ใส่อารมณ์เมื่อได้รับมอบหมายงาน

2. ทำดีที่สุดแล้ว

ความผิดพลาด เกิดขึ้นได้เสมอ หากเรารู้สึกได้ถึงความผิดพลาดนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเราเองหรือปัจจัยรอบข้าง สิ่งที่ต้องทำคือ นำความผิดพลาดนั้นไปปรับปรุง แต่หากเกิด ความเสียหายขึ้นมา แล้วไม่ควรตอบไปว่า “ทำดีที่สุดแล้ว”

เพราะนั่นอาจหมายถึง คุณยังทำได้ไม่ดีพอ ที่จะทำให้งานลุล่วง และเป็นการปัดความรับผิดชอบ ทั้งหมดจากคำพูดนั้นๆ สิ่งควรพูดคือ…ขอโอกาส และจะพยายามนำไปปรับปรุง ครั้งหน้าจะทำให้ดีกว่านี้

3. ตอนทำงานที่เก่า ทำงานกันแบบนี้

ระลึกไว้เสมอ ว่างานแต่ละแห่ง ไม่เหมือนกัน ตำแหน่งเดียวกัน แต่ลักษณะงานก็แตกต่างโดยเฉพาะวัฒนธรรมในองค์กรนั้นๆ

ควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆนำสิ่งที่เรียนรู้มาแล้วนำมาปรับใช้กับงานที่ใหม่ให้ได้ อย่ายึดติดกับสิ่งเดิมๆ ที่ทำให้เราไม่ก้าวไปไหนสักที

4. ไม่ใช่ความผิดของเรา เป็นความผิดของ….

การโทษคนอื่น ไม่ได้ทำให้เราดูดีหรือไม่ผิด หากทำงานเป็นทีม อย่าโทษผู้อื่น เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังสร้าง ศั ต รู ขึ้นในที่ทำงาน

แม้จะไม่ใช่ความผิดของคุณจริงๆ คุณควรให้ผู้ที่ทำผิดพลาดมีโอกาสได้พูดถึงความผิดนั้นด้วยตนเอง อย่าร้อนตัวจนชี้นิ้วไปยังใครคนใดคนหนึ่ง

5. ไม่สามารถทำงานร่วมกับคนๆนี้ได้

ไม่ว่าคุณจะเคมีไม่ตรงกัน กับเพื่อนร่วมงานมากแค่ไหน หรือมีปัญหา ส่วนตัวขัดแย้งกัน อย่างมากมาย แต่การทำงานนั้นเมื่อได้รับมอบหมาย ควรพยายามที่จะทำงานร่วมกับใครก็ตาม

ที่หัวหน้าเห็นว่าจะทำให้งานสำเร็จ หรือหากหัวหน้ารู้ปัญหานี้อยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นไปได้ ที่ต้องการให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับบุคคลนั้นได้ เพราะการทำงานนั้นไม่ควรมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง

6. ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

เมื่อรู้ว่าเกิดปัญหาขึ้น ในการทำงาน ไม่ว่าโปรเจ็คใดๆ เมื่อต้องการ ขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า ควรคิดการแก้ปัญหาไปอย่างคร่าวๆ และขอความเห็นมากกว่า การที่จะบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นแก้ไขไม่ได้

เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร นั่นแสดงถึงวุฒิภาวะ ที่ไม่เหมาะสม กับตำแหน่งงาน งานทุกงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ อยู่ที่การจัดการและแก้ปัญหานั้นๆ

7. ตอนนี้ยุ่งมากเลย งานนี้ไม่เร่งใช่มั้ย

เมื่อรู้ว่า ตอนนี้กำลังยุ่ง งานล้นมือจริงๆ เราสามารถถามหัวหน้าได้ ถึงความสำคัญของงานใหม่ ฉะนั้น ควรปรับมาทำงานชิ้นใหม่ก่อนและหยุดงานที่กำลังทำอยู่ไว้ ชั่ ว คราว

วิธีนี้จะทำให้หัวหน้ารู้ว่าจริงๆ แล้วงานล้นมือ แต่หากมีงานเร่งด่วน เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ ไม่ยึดติด และหากงานที่กำลังทำค้างเอาไว้นั้นล่าช้าก็เพราะเรามีเหตุผลที่ดีพอ

8. เราทำงานได้มากกว่า…ควรได้เงินเดือนมากกว่าหรือขึ้นเงินเดือนมากกว่า

เรื่องเงินเดือนหรือขึ้นเงินเดือน เป็นพิจารณาของบริษัทเราสามารถขอขึ้นเงินเดือนได้ แต่ไม่ควรบอกว่าเราทำงาน ได้มากกว่าคนอื่นๆ เพราะการทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกันอาจจะรู้สึกเหมือนว่าเราทำงานได้เยอะ ทำงานได้ดีแต่นั่นคือ ความรู้สึกของเราเอง

และเราจะทำให้เพื่อนร่วมงานมองในแง่ลบ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเราเลย ทางที่ดีหากต้องการขอขึ้นเงินเดือนหรือใดๆ ควรพูดเฉพาะ ในส่วนของตัวเอง และไม่ได้หมายความว่าการขอนั้นจะได้เสมอไป

9. เวลาไม่พอที่จะทำงานนี้ให้เสร็จได้ทันเวลา

ทุกๆคนก็คงมีงานล้นมือ เหมือนกันทั้งนั้น แต่หากเรามีงานเยอะและทำไม่ทันจริงๆ ควรพูดคุยหรือขอความช่วยเหลือก่อนจะถึงกำหนดการส่งงาน การขอความช่วยเหลือ ไม่ได้หมายถึงประสิทธิภาพในการทำงานของเราไม่ดีพอ

แต่หมายถึงเรารู้จักการแก้ปัญหา และมีเหตุผลเพียงพอใน การขอความช่วยเหลือนั้น หัวหน้างานอาจจะให้คำแนะนำถึงระบบการทำงานเพื่อ ให้เสร็จทันเวลา หรืออาจจะได้รับคำแนะนำที่ทำให้เราจัดการปัญหาได้ดีพอ

10. งั้นขอลาออกละกัน

ไม่ว่าเจอปัญหา หรือถูกตำหนิ มาอย่างไร การพูดถึงเรื่องการลาออก เหมือนเป็นการ ข่ ม ขู่ ซึ่งมักไม่ได้ผล และไม่มีใครคิดว่าการที่คุณลาออกนั้นจะทำให้บริษัทล่มสลายหากคุณแสดงสภาวะจิตใจที่ต้องการประชด

หรือ ข่ ม ขู่ ออกมา บริษัทเองก็คงไม่อยาก เ สี่ ย ง กับการที่คุณพูดอะไรไม่คิดแบบนี้ และนั่นคือการหนีปัญหาที่ชัดเจนที่สุด

11. คงจะดีถ้าไม่ต้องตอบเมล์ตอนดึก

เรื่องจริงของยุคนี้ คือการที่เราทำงาน ผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานผ่านเมล์หรือแชทต่างๆ เป็นไปได้ที่เจ้านายคิดงานได้ตอนดึก และต้องการสั่งงานเอาไว้ก่อนที่จะลืม หรือมีการแก้ไขงานในตอนดึกหากเป็นบ่อยๆจนทำให้การพักผ่อนของเราสะดุดการจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้านายนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ

แต่น้ำเสียงในการพูดคุยนั้นควรเป็นไปอย่างราบเรียบ ไม่ใช่อารมณ์หงุดหงิด จากการนอนไม่เพียงพอถาม ในสิ่งที่ควรถามเช่น “ถ้าหากไม่ได้ดูเมล์ตอนดึกๆและไม่สามารถตอบกลับได้ควรทำอย่างไร”หรือ ถ้าหากจะขออนุญาตตอบเมล์

หรือแชทต่างๆ ในช่วงเวลา… ได้หรือไม่หากพูดคุยด้วยเหตุผลแล้วไม่ได้ผล นั่นก็อาจจะเป็น วัฒนธรรมองค์กร ที่ไม่เข้ากับตัวเรา ลักษณะงานบางงานนั้นอาจจะต้องการการตอบรับอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอาจจะต้องสอบถามตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์งานแล้วก็เป็นได้

12. คุณไม่ได้บอกให้เราทำงานนั้น

เป็นไปได้ที่เจ้านายจะไม่ได้สั่งงานนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่เราควรเลี่ยงคือ โทษเจ้านายโดยตรง วิธีที่ดีที่สุดคือหาทางพูดคุย และหากยังไม่ถึง กำหนดงาน อาจจะต้องคุยกันว่าทำตอนนี้พอจะเป็นไปได้หรือไม่

แต่อย่าลืมที่จะพูดคุยเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมขึ้น ในครั้งหน้า และหากเจ้านายไม่ได้สั่งงานเราจริงๆ แล้ว อย่ารับเอาความผิดชอบมาใส่ตน อาจจะเพียงขอโทษไปแต่อย่าโทษตัวเอง

13. เจ้านายแน่ใจแล้วหรือที่จะทำอย่างนั้น

อย่าได้…ล้ำเส้นเข้าไปสอนงาน เจ้านายเด็ดขาด โดยเฉพาะพูดแล้วมีเสียงหัวเราะเบาๆด้วยแล้วยิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง การตัดสินใจต่างๆ ที่เจ้านายได้ทำไปแล้วนั้นเรามีหน้าซัพพอร์ทงาน

และทำเพื่องานลุล่วงไปได้โดยดี หากงานมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นอย่างที่คิดก็เพียงแค่พูดคุยเพื่อขอคำแนะนำ

14. ฟังแล้วยากจัง/ ไม่น่าจะเป็นไปได้

เมื่อยังไม่ได้ เริ่มลงมือทำ อย่าคิดว่าสิ่งใดยากเกินกว่าจะจัดการปัญหาได้ ความยากของงาน คือบทพิสูจน์ของความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเรายิ่งถ้าเราทำให้งานที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

เชื่อว่าเจ้านาย จะให้ความไว้วางใจในตัวเรามากขึ้น แต่หากเราพูดประโยคนี้ ตั้งแต่ก่อนเริ่มโปรเจค คุณอาจจะไม่ได้ทำโปรเจคนี้เลยก็เป็นได้

15. วันนี้เหนื่อยและหมดพลัง

ไม่ว่าเมื่อคืน คุณจะไป เ ม า หนักที่ไหนมา การพูดคือสิ่งที่บอกได้ว่าคุณไม่มืออาชีพ ไม่ว่าจะเหนื่อย ง่วงขนาดไหน เมื่อถึงเวลางานก็คือหน้าที่ ของคุณที่จะทำให้ตัวเองมีพลังในการทำงานให้เต็มที่

หากทำไม่ได้คุณมีปัญหากับระบบการจัดการในตัวเองซึ่งทำให้เป็นปัญหา กับการทำงานแน่นอน หลายๆ คำพูดนั้นเมื่อใส่อารมณ์ในการพูดเข้าไปด้วย เชื่อว่าจะ เ ล ว ร้ า ย กว่านี้มาก การปีนเกลียวหรือล้ำเส้น

เจ้านายไม่ดีแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บางอย่างที่สามารถเก็บคำพูด เอาไว้ได้ก็ควรทำ การทำงานนอกจาก ทำตามหน้าที่แล้ว ยังต้องสามารถต่อยอดงานได้และต้องรู้จัดอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ไม่ควรพูดอีกด้วย

ขอขอบคุณ p o o y i n g n a k a

ความคิดเห็น

ตุ๊กตา BORNPINK World Tour Concert

ตุ๊กตา BORNPINK World Tour Concert
Blackpink Born pink world tour ตุ๊กตา blackpink blackpink BORN PINK World Tour Concert lisa jennie ของเล่นสําหรับเด็ก

YG JISOO FIRST SINGLE ALBUM

YG JISOO FIRST SINGLE ALBUM
JISOO YG TAG ALBUM (LP Ver.) A Ver. YG JISOO FIRST SINGLE ALBUM

YG SELECT/WEVERSE

YG SELECT/WEVERSE
[YG แท็กอัลบั้ม YG Tag Album Ver.] TREASURE - มินิอัลบั้มที่ 2 [THE SECOND STEP : CHAPTER TWO] YG SELECT/WEVERSE

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

16 ภาพที่พิสูจน์ว่า “ผู้หญิงคืออัจฉริยะ” ที่ผู้ชายไม่มีวันตามทัน.. จะล้ำไปไหน

หลายคนเชื่อว่าผู้หญิงแก้ปัญหาได้ดีกว่าชายหนุ่ม ด้วยเหตุผลว่าบางครั้งพวกเธอก็หาวิธีสุดประหลาดมหัศจรรย์มาจัดการกับเรื่องที่พวกเธอๆ คิดว่าเป็นเรื่องยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่าย ที่บางครั้งผู้ชายอย่างเราก็คิดไม่ถึง งั้นเราไปดูกันว่าผู้หญิงเหล่านี้ เขาจะให้คุณประหลาดใจได้แค่ไหน พบกับ 16 เรื่องอัจฉริยะของผู้หญิง ที่ทำเรื่องยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่าย   ปัญหาเรื่องถือ Tablet ในรถจะหมดไปด้วยวิธีนี้ ปัญหาการต้องยกแก้วดื่มน้ำกิน ตอนขับรถจะหมดไปด้วยวิธีนี้ ปัญหาเรื่องไม่มีที่วางโทรศัพท์จะหมดไป ปัญหารองเท้ากัดจะหมดไป ให้ลองใช้ถุงกระดาษแทน ปัญหาไม่มีไม้เซลฟี่ในการถ่ายภาพจะหมดไป ปัญหาเรื่องความเย็นของไวท์จะหมดไป ให้เอาไวท์ไปใส่ช่องกดน้ำของตู้เย็น ปัญหาเรื่องผมสั้นยาวไม่ทันจะหมดไป ต่อมันแบบนี้เลย ปัญหาเรื่องห้ามนำของที่มีแอลกอฮอล์ เข้าพื้นที่ต่างๆ จะหมดไป ปัญหาการเอาขนมเข้าโรงหนังไม่ได้ก็จะหมดไปซ่อนเข้าไปในโฟมเลย ปัญหาเรื่องงานเย็บกางเกงไม่เป็นจะหมดไป เอาเทปกาวมาติดเลย ปัญหาเรื่องแสงแดดส่องตาจะหมดไป ถ้าคุณผมยาวพอ ปัญหาเรื่องการถ่ายเซ็กซี่ แต่ไม่อยากเปลืองตัวจะหมดไป ปัญหาเรื่อ

14 ภาพนักกีฬาโอลิมปิก ที่เผยความน่าทึ่งของพวกเขา

  การมาถึงการเป็นนักกีฬาโอลิมปิกได้นั้นถือว่าที่สุดของนักกีฬาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ากว่าพวกเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาต้องผ่านซ่อมฝึกซ้อมมาอย่างหนัก แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เรารู้กันดีอยู่แล้ว แต่ความจริงแล้วมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่ทราบเกี่ยวกับตัวพวกเขา วันนี้เราจึงได้นำมุมมองใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับนักกีฬาโอลิมปิกมาให้ได้ชมกัน พร้อมแล้วไปชมกันเลย   1. เธอคนนี้เป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของซาอุดิอาระเบีย มีชื่อว่า ซาราห์ อัตตาร์ โดยลงแข่งขันกรีฑาในโอลิมปิก 2. นักกีฬายกน้ำหนักคนแรกของประเทศที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ เธอมีชื่อว่า ฮิดิลิน ดิอาซ และแน่นอนว่าเราไม่เคยเห็นแผลบนมือของเธอ 3. เธอคนนี้มีชื่อว่า จูเลีย แมนคูโซ นักกีฬาสกีชาวอเมริกัน สามารถพิชิตเหรียญทองแดงโอลิมปิกได้จากการสวมชุดว่ายน้ำและหมวกแก๊ปที่หันข้าง 4. เดวิด ลี (203 ซม.) นักวอลเลย์บอล และ ซิโมเน ไบลส์ (142 ซม.) นักยิมนาสติกจากทีมชาติสหรัฐอเมริกา พวกเขามีความสูงแตกต่างกันมาก 5. ในทีวีมันอาจดูง่าย แต่ในมุมของยอดฐานกระโดดสกีในโอลิมปิกของรัสเซียแล้วมันมันหวาดเสียวมาก   6. นาเดีย โคมานิชี นักกีฬาหญิงของโรมาเนีย ก

11 ประเทศทั่วโลกที่มีประชากรชายล้นประเทศ จนขาดแคลนผู้หญิง

    ในปัจจุบันสัดส่วนประชากรระหว่างชายหญิงในแต่ละประเทศนั้นไม่เท่ากันมาก และนี่คือ 11 ประเทศทั่วโลกที่มีประชากรชายล้นประเทศจนขาดแคลนผู้หญิง โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นทางฝั่งยุโรปซะมากกว่า จะมีประเทศไหนบ้างไปชมกันเลย . 1. นอเวย์ – ในนอเวย์มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 12,000 คน   2. ไอซ์แลนด์ – ในไอซ์แลนด์โดยเฉลี่ยแล้วมีผู้ชาย 104 คน แต่กลับมีผู้หญิงเพียง 100 คนเท่านั้น มีข่าวลือว่ารัฐบาลไอซ์แลนด์จะจ่ายเงินให้กับหญิงต่างชาติที่แต่งงานกับชายชาวไอซ์แลนด์ แต่มันเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น 3. แคนาดา – ในแคนาดามีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 250,000 คน โดยผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไปอยู่ประเทศอื่นและไม่ได้กลับมาบ้านตนเองอีก 4. ไซปรัส – แม้ว่าจะมีผู้คนอพยพเข้ามามาก แต่ผู้หญิงในไซปรัสกลับขาดแคลน 5. จีน – ในประเทศจีนมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 34 ล้านคน 6. ฟินแลนด์ – ตามสถิติในฟินแลนด์มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 256,000 คน และผู้ชายอายุ 25 – 54 ปีไม่มีเดท 7. อิตาลี – แทบจะไม่เห็นผู้หญิงอิตาลีเป็นแม่บ้านกันแล้ว เพราะหญิงอิตาลีส่วนใหญ่มักจะย้ายไปทำงานในต่างประเทศ 8. สวีเดน – มีผู้อพยพชายเข้ามา

หมู่เกาะแฟโร เกาะสวรรค์ของเจ้าสาวจากแดนไกล

ภาวะขาดแคลนประชากรเพศหญิง ทำให้ชายชาวหมู่เกาะแฟโร ของเดนมาร์ก หันมาเฟ้นหาภรรยาจากแดนไกลกันมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศไทยและฟิลิปปินส์ นี่คือเรื่องราวการปรับตัว ของเจ้าสาวที่ต้องจากสภาพอากาศเขตร้อนไปอยู่ประเทศหมู่เกาะที่มีแต่ลมพัดแรงทั้งวัน เมื่อตอนที่อัธยา สเลทาลิด ย้ายจากประเทศไทยไปอยู่ที่หมู่เกาะแฟโรใหม่ ๆ เธอพบว่าฤดูหนาวที่นั่นยาวนานถึง 6 เดือน ซึ่งเธอมักจะนั่งติดอยู่กับเครื่องทำความร้อนตลอดเวลา 'คนบอกให้ฉันออกไปนอกบ้าน เพราะแดดกำลังออก แต่ฉันพูดว่าไม่! ปล่อยฉันไว้คนเดียวแบบนี้ดีแล้ว ฉันหนาว' อัธยา ยอมรับว่า ตอนย้ายมาอยู่นี่ใหม่ ๆ เมื่อ 6 ปีก่อน เธอรู้สึกลำบากมาก โดยเธอพบกับสามีที่ชื่อยาน ตอนที่เขาไปทำงานกับเพื่อนชาวแฟโรอีกคนซึ่งเปิดธุรกิจในประเทศไทย และยาน ก็ทราบดีด้วยว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทาย เมื่อพาภรรยาย้ายไปอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรม อากาศ และภูมิประเทศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง 'ผมก็กังวล เพราะทุกอย่างที่เธอจะจากมา ตรงข้ามกับทุกอย่างที่เธอจะได้เจอ แต่ผมรู้จักอัธยา และรู้ว่าเธอจะรับมือได้' ปัจจุบัน หมู่เกาะแฟโรมีหญิงชาวไทยและฟิลิปปินส์ อาศัยอยู่กว่า 300

สุดปังรอบโลก

shopee หูฟังบลูทูธ

shopee หูฟังบลูทูธ
หูฟังบลูทูธ เชื่อมต่อง่าย TWS Pro6 ใหม่ล่าสุด ios หูฟังไร้สาย เสียงดี คุณภาพดี mini